วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เนื้อลิปสติกแต่ละชนิดต่างกันยังไง


การใช้ลิปสติกเพื่อเติมสีสันให้แก่ริมฝีปากเป็นการประทินความงามที่อยู่คู่กับผู้หญิงมานาน สาว ๆ เองก็คงมีลิปสติกไว้ในครอบครองอย่างน้อยก็คนละ 3-4 แท่งใช่ไหมล่ะคะ (รู้นะว่าหลาย ๆ คนมีเยอะกว่านี้อีกขนาดตัวเราเองยังมีมากกว่าเลย) ทั้งไว้ต่างสีต่างเฉด แถมยังมีเนื้อลิปสติกที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแมท เนื้อเชียร์ หรือแบบเงางามวาวฉ่ำ เพื่อให้ลุคที่แตกต่างกันไปในการแต่งหน้าแต่ละแบบ ว่าแต่ประเภทของลิปสติกแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างมือใหม่อาจจะยังงงๆ งั้นเราทำความรู้จักให้ละเอียดไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ





Lip Tretment คือ ลิปสติกที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น หรือลดอาการแตกลอกของเรียวปาก มักมีส่วนผสมสารบำรุงเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล ปัจจุบัน Lip Tretment มีให้คุณเลือกในหลายรูปแบบด้วย ทั้งลิปบาล์มชนิดใส(Lip Balm) ให้ความชุ่มชื้น แต่บางลิปบาล์มชนิดเข้มข้น (Lip Conditioner) สำหรับสาวที่ริมฝีปากแห้งหรือแตกลอกเป็นขุย ข้อแนะนำ แนะนำให้คุณ ทา Lip Tretment ก่อนทาลิปสติกสีปกติ ประมาณ 5  10 นาที  เพื่อช่วยเคลือบริมฝีปากให้ชุ่มชื้นเสียก่อน เพราะหากทาลิปสติกสีในขณะที่ริมฝีปากยังแห้งอยู่ อาจทำให้ทาลิปสติกไม่ติดหรือติดเฉพาะบริเวณร่องปากที่ไม่แห้งได้ หรือการทาก่อนนอนแล้วทิ้งไว้ทั้งคืนก็จะช่วยให้เรามีริมฝีปากที่นุ่มนวลและทาลิปติดง่ายขึ้นอีกเท่าตัว






Lip Cream คือ ลิปสติกที่มีเนื้อสีเข้มข้นมากเป็นพิเศษ มักมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดต่างๆ เช่น Emollient วิตามินซีหรือวิตามินอี ช่วยให้เนื้อลิปสติกมีความเนียนลื่นทาได้ง่าย ไม่มีคราบติดตามร่องริมฝีปาก ทั้งยังให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากอีกด้วย ข้อแนะนำ ลิปสติกชนิดนี้เหมาะสำหรับสาวที่มีริมฝีปากได้รูปสวยอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ริมฝีปากดูเอิบอิ่มยิ่งขึ้น  สำหรับสาวที่มีรูปปากหนาหรือริมฝีปากไม่ได้รูป ควรหลีกเลี่ยงลิปสติกชนิดนี้เพราะเนื้อครีมที่เข้มข้นจะยิ่งเน้นให้ริมฝีปากคุณดูหนายิ่งขึ้นด้วยค่ะ






Lip Frost คือ ลิปสติกที่มีเนื้อสีเข้มข้น แต่จะแตกต่างจากลิปสติกชนิด Cream ตรงที่จะมีส่วนของ Glitter ซึ่งเมื่อสะท้อนกับแสงจะเกิดเป็นประกายระยิบระยับ ทำให้ริมฝีปากดูเปล่งปลั่งสดใส ข้อแนะนำ ลิปสติกชนิดนี้เหมาะสำหรับสาวที่มีริมฝีปากค่อนข้างบาง เพราะประกายระยิบระยับของเนื้อลิปสติกจะช่วยให้ริมฝีปากดูสว่างและมีความโดดเด่นยิ่งขึ้นค่ะ






Lip Matt  คือ ลิปสติกที่มีความเข้มข้นของเนื้อสีมากที่สุด ปราศจากความเงามัน มีส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อลิปสติกแห้งไม่ลบเลื่อนง่าย  ปัจจุบันลิปสติกชนิดนี้มีให้คุณเลือกด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งเนื้อเมทท์ปกติ Glitter Matt ที่เพิ่มประกายระยิบระยับเล็กน้อย ให้ริมฝีปากคุณมันเงา ช่วยให้เรียวปากดูอวบอิ่มยิ่งขึ้น ข้อแนะนำ เวลาทาลิปสติกชนิดนี้ไม่ควรทาในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะทำให้ปากดูแห้งหนาไม่มีชีวิตชีวา หรืออาจดูมีอายุอีกด้วย






Lip Sheer and Lip Satin ลิปสติกเนื้อเชียร์และเนื้อซาตินมีสีสันเพียงบาง ๆ มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่เยอะ ให้ความมันวาวได้ดีระดับหนึ่ง ใช้เพื่อเน้นสีสันธรรมชาติของริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้นหรือเติมสีสันใหม่ลงไปเพียงจาง ๆ เท่านั้น สามารถใช้แทนลิปบาล์มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากไปพร้อม ๆ กับให้สีสันใส ๆ เป็นธรรมชาติ เมื่ออยู่ในแท่งอาจดูมีสีเข้ม แต่จะอ่อนลงมากเมื่อนำมาใช้จริง ด้วยเม็ดสีที่ไม่แน่นทำให้มันเหมาะกับผู้ที่ไม่ปรารถนาการใช้ลิปสติกสีจัด และไม่อยากทาลิปกลอสให้เหนียวเหนอะริมฝีปาก อย่างไรก็ดีลิปสติกเนื้อเชียร์และเนื้อซาตินนี้สามารถทาทับได้หลายครั้งโดยไม่เป็นคราบ






Lip Shine ลิปสติกแบบมันวาวมีส่วนผสมของกลิตเตอร์เล็ก ๆ ที่ให้ประกาย รวมทั้งให้ความมันวาวแบบกลอสซี่ จึงทำให้ริมฝีปากดูเต็มและอวบอิ่ม อย่างไรก็ดีควรหลีกเลี่ยงการทาลิปสติกชนิดนี้ลงบนริมฝีปากที่แห้งลอก เพราะจะยิ่งเน้นให้เห็นข้อบกพร่องของริมฝีปากได้ชัดเจน






Lip Gloss and Tint แม้ลิปกลอสและทินท์จะไม่ใช่ลิปสติก แต่ก็จัดอยู่ในพวกที่ให้สีสันกับริมฝีปาก ทั้งลิปกลอสและทินท์มักใช้คู่กัน โดนใช้ทินท์เพิ่มสีสันให้ริมฝีปากและยังเพิ่มสีสันให้พวงแก้มได้อีกด้วย ส่วนลิปกลอสใช้ทาทับเพื่อเพิ่มความแวววาว ทั้งนี้ไม่นิยมใช้ลิปกลอสเดี่ยว ๆ โดยไม่ทาทินท์หรือลิปสติกที่ริมฝีปากเสียก่อน



วิธีการเลือกลิปสติก : ลักษณะของลิปสติกที่ดี
    เวลาเลือกซื้อลิปสติกควรลองทาจริงบนริมฝีปากของคุณ  เพราะนอกจากทดสอบความเนียนละเอียดของเนื้อลิปสติกแล้ว สีสันของลิปสติกที่คุณเห็นตามเคาน์เตอร์นั้น อาจจะไม่ใช่สีจริงที่คุณต้องการเห็นบนริมฝีปากของคุณ เพราะฉะนั้นเวลาทดลองสีลิปสติก  คุณควรดูว่าสีสันที่ปรากฏนั้นเป็นที่พอใจหรือยัง นอกจากนี้ควรทดลองดมกลิ่นของลิปสติกด้วยว่าเป็นกลิ่นที่คุณรับได้หรือไม่ เพราะลิปสติกแต่ละยี่ห้อจะมีกลิ่นไม่เหมือนกัน คุณต้องมั่นใจว่าเมื่อทาลิปสติกลงบนริมฝีปากแล้ว จะไม่สร้างความรำคาญให้กับคุณ เพราะถ้าซื้อมาแล้วไม่ถูกใจคุณอาจจะเสียดายเงินในตอนหลังก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น